เท่าที่ไปยุโรปเองอย่างเมืองต่างๆในเยอรมัน กรุงเชก(ปราก) โคเปนเฮเกน(เดนมาร์ก) ปารีส(ฝรั่งเศส) ออสโล (นอร์เวย์) ก็รู้สึกว่าเมืองใหญ่ๆมันแออัดและเร่งรีบมีผู้คนเยอะตลอดโดยเฉพาะเวลาเร่งรีบ
อย่างปารีสเองเวลาไป(เราไปช่วงเมษาปีนี้) ก็เจอผู้คนแออัด นั่งรถไฟก็มีคนอัดแน่นเต็มรถ รวมทั้งรถราง ไปถึงขึ้นรถไฟรถรางราวๆสี่โมงเย็นก็แน่นขนัดไปหมด แถมผู้คนหลากหลายเชื้อชาติมาก รวมถึงมีคนที่ตั้งใจจะมาหาประโยชน์ในเมืองนี้เยอะเหลือเกิน
ช่วงนี้เห็นโปรโมชั่นตั๋วเครื่องบินปารีสนี่ก็มีเข้ามา เลยนึกถึงตอนที่ไปปารีส แต่ถ้าจะไปอีกคงเลือกที่จะไม่ไปปารีส เพราะไม่ใช่คนที่จะไปซื้อพวกกระเป๋าหลุยส์อะไรพวกนี้ ถ้าเป็นไปได้ไปลงปารีสแล้วจะต่อรถไปเมืองอื่นเลยแบบบ้านนอกของฝรั่งเศสก็ได้ที่สงบกว่าปารีส
จริงๆการได้ไปดูอย่างพวกหอไอเฟล นอเตรอดาม พิพิธภัณฑ์ลูฟ โบสถ์ซาเครเคอร์ อะไรก็น่าจะเป็นไฮไลต์ของการมาชมปารีส แต่มันแลกกับการที่เราฝ่าฟันพวกที่เข้ามาหาประโยชน์ในกรุงปารีสเข้าไปด้วยเลยทำให้ต้องเสียอารมณ์ในการเที่ยวไปเยอะ
อย่างหอไอเฟลก็มีคนดำขายของตามทางทั่วไป ยังดีว่าคนดำตรงนี้ไม่เดินเข้ามาหา มายื่นอะไรให้เรา แต่ก็ทำให้ต้องเดินอย่างระมัดระวังมาก และที่พิพิธภัณฑ์ลูฟเองตอนที่เดินอยู่แถบรอบๆนอกกำแพง เจอพวกที่เดินตื้อขอให้เราเซ็นในแผ่นอะไรของเขาซึ่งเคยอ่านๆมาแล้วว่าคนอื่นก็เจอเหมือนกัน พยายามปฏิเสธและเดินหนีแล้วแต่เขาเดินตามแถมเข้ามาจับแขนเราซึ่งเราก็ใส่เอกสารสำคัญไว้ในเสื้อเลยไม่ชอบที่เขาจะมาจับตัวเรา อย่างโบสถ์ซาเครเคอร์แถบมงมาร์ตมันก็สวยดีแต่ก่อนที่เราจะเดินขึ้นไปมันแยกทางเป็นซ้าย-ขวา แล้วมีมุมที่มีคนดำซ่อนตัวอยู่พยายามจับข้อมือเราที่เดินเข้าไปคนเดียว อย่างที่เคยอ่านเจอว่าเขาจะเอาด้ายมาพัน เรารีบสะบัดออก แล้วเดินไป แต่ก็ทำให้เรากลัวที่จะเดินกลับลงไปเจออีก
ที่ถนนช้อปปิ้งก็ไม่ได้เจออะไร เดินเล่นดูตามร้านไปกับเพื่อนชาวต่างชาติที่เจอในโฮสเทล และตอนที่อยู่ในลูฟเราเจอป้ายระวังขโมย แต่เราระวังตัวอยู่แล้วไม่วางอะไรตอนถ่ายรูป ระวังตลอดไม่เจออะไร
ตอนที่ขึ้นรถใต้ดินไม่เจออะไร จริงๆก็ควรพยายามเลี่ยงจุดที่คนแน่นๆเอาไว้ และขึ้นรถในเวลาที่ไม่ค่อยมีคนแน่นขบวน แต่ก็ยังมีคนน่าจะเป็นแบบขอทานที่ขึ้นมาร้องเพลงถึงในขบวนรถไฟทั้งที่เมืองนี้ก็มีที่กั้นตลอดเวลาเข้าออกสถานี ซึ่งเราก็เห็นคนปีนเข้าบ้างเหมือนกัน
อย่างตอนที่ขึ้นรถรางก็ยังโชคดีที่เราไม่มีสมบัติอะไรมาก ถึงมันจะพยายามกรีดซิบล้วงเศษเหรียญของเราแต่ก็ไม่ได้ถุงเหรียญไป
ทั้งหมดนี้ทำให้การเที่ยวต้องระมัดระวังตลอด จริงๆปารีสนี่ก็คิดว่าคงไม่เท่าพวกที่ไปอิตาลีแล้วเอาประสบการณ์มาเล่าแบบสุดๆมั้งนะ อิตาลีก็เป็นอีกที่นึงที่อยากไป แต่ก็ไม่รู้ว่าไปจริงๆแล้วจะประทับใจหรือระแวงผู้คนมากกว่าสนุกกับการเที่ยว ทำให้รู้สึกว่าเราควรจะไปเที่ยวเมืองเล็กๆที่เราเดินชิวๆ ถ่ายรูปมุมสวยๆ อาจจะไม่เป็นไฮไลต์ใหญ่ระดับประเทศแต่มันได้อารมณ์เพลินๆดีนะ
ชื่อบล็อก ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเนื้อหาหรอก แต่แค่ชอบและมุ่งไปหาสิ่งที่ชอบเหมือนเวลามุ่งไปหารักตามชื่อหนังญี่ปุ่นนั่นแหละ
วันพุธที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557
ไปปารีสมาแล้วรู้สึกว่าเป็นเมืองที่ไม่น่าเที่ยว
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น
(
Atom
)
ไม่มีความคิดเห็น :
แสดงความคิดเห็น