วันศุกร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

สอบปลายภาค มสธ. (24-25 มกราคม 2558 สนามสอบ โรงเรียนวัดสุทธิวราราม)

ถ้าจะเล่าถึงเรื่องสอบของมสธ. อย่างครั้งล่าสุด เมื่อปลายม.ค. วันที่ 24-25 มกราคม 2558 ก็ไปสอบมาที่สนามสอบวัดสุทธิวราราม  นั่งรถเมล์สาย 1 ไป เวลาไปใกล้ถึงมีกลิ่นปลาก็จะรู้เลยว่าใช่ละถึงละ เพราะตรงนั้นเป็นสะพานปลา  ช่วงเช้าก็จะมีโจ๊กขายอยู่แถวปากซอยเยื้องๆตรงข้ามโรงเรียนวัดสุทธิ ไม่ไกลจากป้ายรถ กลางวันก็มีข้าวขายแถบเดียวกัน หรือเดินไปหน่อยก็มีร้านบ้าง แต่ห่างๆกัน วันอาทิตย์บางร้านอาจจะปิด แต่ก็ถือว่าตรงนั้นก็ขายข้าวไม่ได้แพงมาก อย่างประมาณสามสิบห้าบาท  คงเพราะแถวโรงเรียนด้วย   ช่วงสอบเสาร์อาทิตย์โรงอาหารในโรงเรียนก็ไม่ได้เปิดขาย ต้องเดินออกจากโรงเรียนไปหาร้านกินเอา

เวลาสอบที่เรียนของป.ตรีก็จะเจอแบบใช้ดินสอสองบีฝนคำตอบเอา ที่เรียนอยู่คณะวิทยาศาสตร์ฯสาขาสารสนเทศธุรกิจ ไม่เคยเรียนวิชาที่เป็นอัตนัยเหมือนกัน  มีแต่ข้อสอบเป็นช้อยส์  ยกเว้นตอนไปทำกิจกรรมฝึกทักษะที่มสธ.ที่มีสอบปฏิบัติ  เรียนมาหลายปีจะจบแล้ว ถ้าลงเรียนสามวิชาครบทุกเทอมก็จะจบเร็วหน่อย แต่ไม่เคยขยันเลยอ่านหนังสือไม่ทัน ลงแค่สองวิชาหนังสือหนาๆสี่เล่มก็แย่ละ  บางเทอมลงสามวิชา ขนาดมีเวลาว่างๆนั่งอ่านไปทั้งวันยังไม่ค่อยไปไหน อย่างในหนังสือเขาจะแนะนำให้มีเวลาแบบสักสองชั่วโมงอ่านหนึ่งบท แต่บางทีบทนั้นมีสักเจ็ดสิบหน้านี่ก็อาจจะอ่านเป็นวันเหมือนกัน หนังสือเล่มนึงก็มีแบบอย่างสี่ร้อยหน้า วิชาละสองเล่มก็อ่านกันอ้วกไปเลย ยิ่งถ้าไปเร่ง แค่เดือนเดียวก่อนสอบนี่แบบตาลายอัดแน่นทุกวัน ขนาดว่ามีเวลาเดือนนึงอ่านก็คิดว่าไม่พอ  ถ้าจะเข้าใจเนื้อหาแบบที่ถามคำถามไม่เหมือนในแบบทดสอบที่ให้มา คำถามคล้ายแต่ไม่ใช่ แบบมีช้อยส์ลวงก็ยังตอบได้ก็ต้องใช้เวลาอ่านนานหน่อย ยกเว้นมีความรู้ในวิชานั้นอยู่แล้ว

ถ้าลองคำนวณ กรณีหนังสือเล่มละ 400 หน้า สองวิชา วิชาละ 2 เล่ม ก็คูณเข้าไป รวมแล้วประมาณ 1600 หน้า ถ้าหาร 30 จะได้วันละ 53 หน้ากว่า (จริงๆบางวิชาก็หนากว่าเล่มละสี่ร้อยหน้า)

เวลาไม่ทันจริงๆก็จะอ่านคำถามท้ายเนื้อหาในหัวข้อต่างๆ ในหนังสือที่มีคำถามคำตอบ บางบทจะเหมือนเป็นสรุปเนื้อหาหลักๆ  ถ้าอ่านแล้วไม่เข้าใจก็ย้อนไปดูเนื้อหา และดูในแบบฝึกหัดที่ให้มา ดูแนวว่าถามเรื่องอะไร และอาจจะไปดูเพิ่มในหนังสือถ้าไม่รู้เรื่อง  เพราะบางทีข้อสอบมันอาจจะออกเนื้อหาคล้ายๆกับที่ถามในแบบฝึกหัด แต่มันอาจจะไม่ได้ตรงเป๊ะ มีแค่บางอันที่ตรง  เจอบางอันมันจะเป็นเนื้อหาในเรื่องเดียวกัน แต่ถามตรงกันข้ามกัน ก็เลยต้องอ่านในเรื่องนั้นในหนังสืออีกที

ข้อสอบเท่าที่ทำมาก็มีออกทั้งในส่วนคำถามท้ายเนื้อหา บ้าง คำถามแนวคล้ายแบบฝึกหัดบ้าง และบางอย่างก็ไม่ได้มีในคำถามพวกนั้นเลย แต่มีอยู่ในหนังสือนี่แหละ ต้องอ่านเข้าใจและจำได้ถึงจะตอบได้
เคยเจออย่างมาตรฐานที่มีชื่อเป็นตัวเลข มีช้อยส์หลายตัวเลขใกล้ๆกันเข้าไปก็งงละ

เพื่อนที่เรียนด้วยกันก็มีตกกันหลายคนหลายวิชา เพื่อนที่ทำงานที่เรียนมสธ.เหมือนกันก็มีตกบ้าง คิดว่าบางอันมันก็ถามเหมือนลองเชาวน์เรา เหมือนจะลวงให้ตอบผิด ถ้าเราไม่หลุด แบบทำความเข้าใจว่าคำถามมันถามอะไรจริงๆและมีความรู้ในเรื่องนั้น ก็จะตอบได้ถูก

เท่าที่เรียนมา บางทีก็อ่านไม่ทันบ้าง เรื่องยากอย่างวิชาเลขก็มีส่วนที่อ่านไม่ทันหรือไม่เข้าใจจริงๆ แต่ก็อ่านหนังสือตลอด ไม่ได้อ่านแค่แบบฝึก และมีไปเรียนที่เขาสอนเสริม ที่ผ่านมาลงเทอมละสามบ้างสองวิชาบ้าง ก็สอบผ่านมาตลอดแต่ลุ้นทุกครั้งเวลาผลสอบออก

เรื่องที่สอบไปคราวก่อน เมื่อ 24-25ม.ค. 2558 ที่โรงเรียนวัดสุทธิวราราม
เวลาเข้าสอบตอนเช้าคือ 9 โมงเช้า แต่ควรจะเตรียมไปเร็ว เพราะห้องสอบอยู่ชั้นสูงๆทุกที ชั้นห้าบ้างชั้นเจ็ดบ้าง แล้วลิฟท์เขาก็เก่ามีน้อยด้วย ช่วงเก้าโมงนี่รอลิฟต์กันนาน
เวลาเข้าไปจากประตูหน้า ตรงไปมีสนามบาส ก็สามารถเอารถไปจอดตรงสนามบาสได้

ตรงแถวหน้าลิฟท์ ตึกแรกซ้ายมือ มีห้องน้ำหญิงอยู่ริมซ้าย เข้าได้หลายคนหน่อย นอกนั้นชั้นบนๆไปจะเป็นห้องน้ำอาจารย์ นอกนั้นเป็นห้องน้ำชาย
ตรงตึกนี้ก็จะมีบอร์ดรายชื่อว่าใครสอบวิชาไหนเวลาไหน ห้องอะไร ชั้นอะไร อย่างช่วงเช้าที่ไปถึงก็จะมีคนคอยบอกว่าห้องเราอยู่ตึกไหนชั้นไหน ไปทางไหน ไม่งั้นดูแค่บอร์ดแผนผังชั้นแล้วก็งงเหมือนกัน

เวลาเข้าห้องสอบ ก่อนเข้าห้องก็เช็คดูเลขที่นั่งสอบก่อน บางทีก็มีผังห้องสอบให้ดูว่าเลขเรานั่งช่วงไหน
เตรียมดินสอสองบี ยางลบ บัตรประชาชน และบัตรนักศึกษา ถ้ามีไม่ครบก็ต้องไปทำใบเข้าสอบที่กองกลางสนามสอบก่อนเข้าห้อง
 ช่วงเช้าที่สอบ 9โมงถึงเที่ยง หลัง 9 โมงเช้าก็ยังเดินเข้าห้องสอบได้ จนถึง 9 โมงครึ่ง  เวลาเลิกคือเที่ยง แต่เห็นคนลุกออกกันก่อนเวลาทุกที อย่างสิบเอ็ดโมงก็จะลุกกันเยอะละ  เวลาทำไม่ทันก็จะรู้สึกว่าเราทำช้าไปรึเปล่า แต่คนอื่นที่อยู่ห้องเดียวกันก็สอบคนละวิชากันทั้งนั้น จะมีวิชาเดียวกันก็อาจจะไม่กี่คนถ้าไม่ใช่วิชาพื้นฐาน

เรื่องการแต่งกายก็มีระเบียบบอกไว้กับเอกสารที่ส่งมาเรื่องกำหนดการสอบ ว่าแต่หน้าร้อนอย่างเมื่อก่อนสอบตอนเมษานี่ก็ถ้าใส่แขนยาวหรือเสื้อหนาหน่อยไปสอบมีหวังร้อนจนไม่เป็นอันสอบ  ห้องที่ไปสอบเป็นห้องเรียนพัดลมทั้งหมด  อย่างใส่เสื้อโปโลกับกระโปรงคลุมเข่าไปสอบก็รู้สึกร้อนเหมือนกัน แต่คราวนี้เปลี่ยนช่วงเวลาเรียน-เวลาสอบไปหมด  อย่างเมื่อก่อนสอบช่วงเมษากับตุลา แต่ตอนนี้ก็เป็นมกรา  อีกทีก็ช่วงกรกฎา  ช่วงปลายมกราอย่างคราวนี้อากาศก็ยังเย็นสบายดี

ช่วงสอบในแต่ละเทอมมีแค่สองวัน เสาร์กับอาทิตย์ เวลาลงทะเบียนก็ต้องดูว่าไม่ลงวิชาที่วันเวลาสอบตรงกัน  ถ้าลงสามวิชา มันก็จะมีวันนึงที่สอบทั้งเช้าและบ่าย จะเอาหนังสือไปดูเพิ่มทั้งสองวิชาก็แบกหนักเหมือนกัน



ลงรูปแผนผังห้องสอบที่ติดบนบอร์ดเป็นตัวอย่าง
แผนผังห้องสอบ มสธ.ที่โรงเรียนวัดสุทธิวราราม

Update
 .ปีนี้ไม่ได้คาดหวังว่าจะประกาศผลสอบเร็ว  ช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมาก็มีเรื่องยุ่งๆทำให้ไม่ได้คิดเรื่องนี้ พอมาวันนี้นึกขึ้นได้เปิดดูเวบมสธ.ในหน้านศ.ป.ตรีก็เห็นลิงค์ประกาศผลสอบ อัพเดตวันที่4 มี.ค.  เลยเข้าไปดูผลสอบออกแล้วในวิชาที่สอบแค่ปรนัยสองวิชา  อีกวิชาที่เป็นวิชาที่มีฝึกปฏิบัติด้วยยังไม่เห็นผลสอบ

17  มี.ค.  ได้ดูหน้าลิงค์ประกาศผลสอบในเวบมสธ.  ( http://www.stou.ac.th/Website/QuestGrade/login.aspx)เห็นว่ามีอัพเดตข้อมูลไปเมื่อ13มี.ค. แต่ลองเข้าไปดูอีกทียังไม่เห็นผลสอบวิชาฝึกปฏิบัติที่สอบไป(ระบบสำนักงานอัตโนมัติ)
เห็นว่าวิชาฝึกปฏิบัติหรือพวกวิชาประสบการณ์ลงทะเบียนสอบซ่อมได้ถึง30มี.ค. แต่วิชาธรรมดาได้ถึงแค่18 มี.ค. (ประกาศในหน้าหลักมสธ.http://www.stou.ac.th/Home/)

ไม่มีความคิดเห็น :

แสดงความคิดเห็น