วันจันทร์ที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2568

มอเตอร์เวย์ M81 ไปกาญจนบุรี

 2025

วันหยุดยาวเดือนสิงหาคมได้ลองไปกาญจนบุรีโดยทางมอเตอร์เวย์ M81 มา

เวลาวางแผนเดินทางเปิดแมพหาเส้นทางจะยังไม่แนะนำทางนี้ เลือกวิธีเดินทางไปด้วยรถยนต์แล้วแมพยังขึ้นถนนเส้นเดิมอยู่   แต่มีถนนเส้นนี้ในแผนที่ ดูตำแหน่งได้

ทางขึ้นอยู่แถวๆเซ็นทรัลเวสเกต

ตอนไปคือไปจากมอเตอร์เวย์เบอร์ 9 ทิศทางจากทางแถวพุทธมณฑลวิ่งไปทางบางใหญ่ ทางเข้า M81 อยู่ก่อนถึงเวสต์เกต

ถ้าอยู่เลนคู่ขนานจะเข้าไม่ได้ ต้องอยู่เลนหลักโดยอยู่ เลนซ้ายสุดของถนนเส้นหลัก

แล้วทางก่อนถึงเวสเกตรถติดเป็นประจำอยู่แล้ว ต้องเลือกเวลาเดินทาง

ทางเข้าจะเป็นสะพานขึ้นไป พอเข้าได้ก็โล่งใจ

ขับไปจนสุดทาง เป็นทางตรงตลอดทาง เสี่ยงเหมือนกัน

เพราะเป็นทางตรงตลอดเสี่ยงกับอาการหลับใน

ถึงกาญจนบุรีแล้วก็เปิดแมพขับตามถนนเส้นเดิม  ตลอดเส้นทาง M81 มีทางออกหลายทางแต่ไม่ได้ไปแถวนั้นไม่กล้าออกไป

ตลอดทางมีป้ายกำกับความเร็วไว้ที่ 80 แต่ไม่มีใครขับ 80 ทุกคนแซงไปหมด ตั้งความเร็วคงที่ไม่เกิน 80 เลยรู้ว่าไม่มีใครขับ 80 มีกล้องตั้งตลอดทางแต่คาดว่ายังไม่เปิดใช้

ถ้าเปิดใช้แล้วรายได้น่าจะมหาศาล  จากกล้อง

มีป้ายจุดแวะพักใหญ่ๆแต่ทั้งหมดกำลังสร้าง มีแค่ห้องน้ำชั่วคราว แนะนำให้เข้าห้องน้ำ ทานอาหาร เติมน้ำมันให้เรียบร้อยก่อน

ตลอดทางสามารถขับได้ราบรื่น

ขากลับก่อนไปถึงมอเตอร์เวย์ไปเจอป้ายไวนิลชี้ทาง M81 เลี่ยงทางก่อสร้าง

ลองขับไปตามป้ายไปก็มีป้ายบอกทุกแยกทุกเลี้ยวจนออกไปเจอ M81  แต่ไม่แนะนำให้ไปตามป้ายเพราะวกวนมาก เข้าไปตามถนนเส้นเล็ก ชุมชน มีหมานอนตามทาง ถ้ามืดน่าจะมองทางยาก  รถสวนกันตรงทางโค้งก็อันตราย

  ไม่แนะนำจริงๆยกเว้นช่วงรถติดมากๆ

คราวที่ไปไปเที่ยวพักรีสอร์ตแต่ขากลับแวะเที่ยวธรรมชาติที่หนึ่งซึ่งคงความเป็นธรรมชาติสูง แจ็คพอตเจอผู้นำเที่ยวเป็นคนที่ต้องการให้คุณก็รู้ว่าใครกลับมา  จริงๆก็รู้สึกเหมือนโดนหลอกให้เข้าไปตั้งแต่ทางเข้า เพราะถ้ารู้ว่าเป็นแบบนั้นอาจจะไม่เข้าไป มีโอกาสเกิดอุบัติเหตุ ถ้าจะวางแผนไปเที่ยวลองดูก่อนว่าเป็นที่เที่ยวของหน่วยงานไหน ดูรีวิว 

วันพุธที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2568

คิดว่าตัวเองจะเรียนมสธรอดไหม

ถึงจะเรียนจบมานานแล้วแต่อยากเขียนไว้เผื่อใครที่กำลังตัดสินใจเลือกแล้วมาอ่านเจอ

 ใครที่คิดว่าจะเรียนแบบไหนดี เรียนไปด้วยทำงานไปด้วย เรียน ราม มสธ หรือที่อื่นดี 

เท่าที่เรียนมสธ.มาแล้ว รู้สึกว่า ถ้าไม่มั่นใจว่าตัวเองมีพื้นฐานในการอ่านทำความเข้าใจตำราเรียนที่ใช้ภาษาทางการ ไม่ควรเรียน 

เพราะเรียนมสธ แบบอ่านหนังสือด้วยตัวเองเป็นส่วนใหญ่

หนังสือมีจำนวนมาก บางทีอ่านบางย่อหน้าแล้วรอบนึงต้องย้อนไปอ่านใหม่  ต้องใช้ความพยายามมากในการสรุปใจความสำคัญ 

ลองหาอ่านหนังสือมสธ.ที่ห้องสมุดดูก่อนว่าตัวเองจะเข้าใจเนื้อหาในหนังสือพอที่จะไปสอบหรือเปล่า

(เนื้อหาของหนังสือรุ่นใหม่อาจมีการปรับปรุง อาจจะไม่ตรงกับที่เราจะใช้สอบ)

ข้อสอบมีการใช้ภาษาที่ซับซ้อน บางข้อก็ใช้ภาษาที่ทำให้งงว่าควรตอบอะไร ดังนั้นถ้าทักษะภาษาไทยไม่แข็งแรงก็อาจจะส่งผลทำให้ไม่ผ่าน แม้ว่าจะอ่านเข้าใจเนื้อหาในหนังสือแต่คำถามในข้อสอบทำให้สับสนได้

ถ้าเรียนระดับอุดมศึกษาในมหาวิทยาลัยที่อื่นอยู่แล้ว มีทักษะการอ่านหนังสือจำนวนมากอยู่แล้ว และอยากเรียนรู้สาขาอื่นเพิ่มเติมให้มีประวัติการศึกษา ก็สามารถเรียนได้ เลือกระยะเวลาที่จะจบได้ ถ้าสาขาที่เรียนในระบบปกติทำให้มีเวลาว่างน้อยจะจบช้าออกไปหน่อยก็ได้ ในช่วงที่เริ่มทำงานแล้วถ้าแบ่งเวลามาอ่านหนังสือได้ก็เรียนได้ 

เรื่องการส่งงานต่างๆของแต่ละสาขาก็ต้องลองดูว่าตัวเองจะสามารถทำงานส่งได้ทันไหม 

เรื่องการสอบก็ต้องดูว่าสะดวกไหม วันที่สอบเป็นวันหยุดสำหรับคนทั่วไปแต่คนที่ทำงานบางอย่างที่เป็นกะ จะสะดวกตรงวันสอบไหม ลาได้ไหม  ต้องเปลี่ยนไปทำงานวันธรรมดาไหม เป็นต้น

อีกอย่างหนึ่งคือก่อนจบต้องเข้าค่ายวิชาประสบการณ์วิชาชีพ ตามสาขาที่เรียน ต้องใช้วันลาติดกัน ถ้าทำงานแล้วงานนั้นไม่สามารถลาติดกันหลายวัน หรือลาลำบากกระทบกับงาน ลาล่วงหน้าไว้นานๆแล้วมาถูกสั่งห้ามลาทีหลังก็อาจจะทำให้เรียนไม่จบ

ที่มาเขียนเพราะเคยเห็นคนรอบข้างที่ลงเรียนแต่ไม่ประสบความสำเร็จ มีองค์ประกอบหลายอย่างสำหรับคนที่ต้องการเรียนด้วยตนเอง ทั้งวินัยในตัวเอง ทักษะการอ่านทำความเข้าใจต่างๆ ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะหลายคนมีพื้นฐานการศึกษาแตกต่างกันทำให้เรียนไม่ผ่าน

บางคนอาจจะเหมาะกับการเรียนแบบมีคนสอน จะทำให้เข้าใจมากกว่า พอมาลงเรียนมสธแล้วไม่ประสบความสำเร็จก็ต้องเปลี่ยนไปเรียนที่อื่น ทำให้เสียเงินเพิ่มอีกทั้งที่มีเงินน้อย หรือทำให้ไม่ได้วุฒิการศึกษาไปเพิ่มเงินเดือน

บางคนอาจจะคิดว่าใช้ทางลัดได้ไหมแบบที่มีสรุปให้มีแนะแนวข้อสอบ อันนี้ก็แนะนำไม่ได้เหมือนกันเพราะเรียนด้วยการอ่านเอง  ส่วนที่ทางมหาวิทยาลัยมีจัดสอนเสริมให้ก็แค่บางวิชา

หนังสือแต่ละเล่มหนามากถ้าจะอ่านแค่ไม่กี่วันก่อนสอบเป็นไปได้ยาก ต้องวางแผนตั้งแต่เนิ่นๆ แบ่งว่าแต่ละสัปดาห์จะอ่านเท่าไหร่เพื่อให้ทัน จดสรุปไว้มาอ่านทบทวน

เราเรียนจบมานานแล้ว เขียนบล็อกเรื่องประสบการณ์การเรียน มสธ.เอาไว้เป็นสิบปีแล้วแต่ยังมีคนเข้ามาอ่านเลยมาเขียนแนะนำเพิ่มสำหรับคนที่ยังตัดสินใจ

ปัญหาต่างๆระหว่างที่เรียน เรื่องการตามผลสอบ การส่งงาน การส่งหนังสือไปตามที่อยู่เก่า เคยเกิดขึ้นมานานแล้ว ปัจจุบันเป็นอย่างไรก็อาจจะต้องหาตามกลุ่มที่พูดคุยเกี่ยวกับการเรียน 


-‐-------------------------------------------

สำหรับคนที่เรียนสายศิลป์ อยากเปลี่ยนมาเรียนทางโปรแกรมคอมพิวเตอร์ 

เท่าที่เรียนวิชาที่เรียนก็จะมีความรู้ทางด้านคอมพิวเตอร์หลายๆอย่างที่จำเป็นต้องรู้ ดูตามหลักสูตรที่เรียน

ตอนที่เรียนเป็นสาขาสารสนเทศธุรกิจ พื้นฐานเดิมตอนมัธยมเป็นสายศิลป์คำนวณ 

ถ้าเข้าใจเรื่องตรรกะ คิดว่าเรียนรู้การใช้โค้ดต่างๆได้ มีพื้นฐานการใช้โปรแกรม ใช้คอมพิวเตอร์ ก็สามารถมาเรียนได้ 

อาจจะลองเรียนโค้ดเบื้องต้นของภาษาคอมพิวเตอร์ต่างๆทางอินเตอร์เน็ตดูว่าน่าจะพออ่านเข้าใจและลองเขียนได้มั้ย อย่างโค้ด html น่าจะมีให้ลองเขียนได้ทั่วไปในเวบ

ถ้าที่ทำงานใช้ excel ก็ลองอ่านคู่มือเบื้องต้นของภาษา visual basicใน excel ลองเขียนโค้ดง่ายๆใน excel จะทำให้มีทักษะเบื้องต้นเรื่องความเข้าใจโค้ดเพื่อจะได้เรียนภาษาอื่นที่อยู่ในวิชาเรียนต่อไป

ถ้ารู้ภาษาอังกฤษอยู่แล้วก็จะสามารถอ่านทำความเข้าใจได้ไม่ยาก

ตอนที่เลือกเรียนยังไม่มั่นใจเลยไม่ได้เลือกสายโปรแกรมโดยตรง พอได้เรียนและมีวิชาที่ฝึกปฏิบัติร่วมกันก็ทำให้เห็นวิธีการเขียนหลายๆแบบ

ต้องลองใช้โปรแกรมจริงๆ ลองเขียนเงื่อนไขต่างๆหลายๆแบบถึงจะเขียนเป็น

เวลาสมัครจะมีรายละเอียดหลักสูตรว่าถ้าเรียนระดับปริญญาในสาขาที่ไม่เกี่ยวข้องมาจะต้องเรียนวิชาพื้นฐานอะไรบ้าง  

หรือถ้าไม่ใช้วุฒิปริญญาก็มีรายละเอียดแยกตามระดับวุฒิการศึกษาที่ใช้สมัครตั้งแต่ม.3 ม.6 ถ้าใช้วุฒิปริญญาจะใช้ระยะเวลาการเรียนสั้นกว่า