วันพุธที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2553

โลกแห่งมิติ

ปัจจุบัน เทคโนโลยีสามมิติเริ่มจะเข้ามามีบทบาทในชีวิตเรามากขึ้นไม่ว่าจะเป็นโรงหนังสามมิติ ทีวีแบบสามมิติ กล้องสามมิติ เกมสามมิติการฉายภาพแบบสามมิติ เวลาพรีเซนต์ หรือจัดนิทรรศการเป็นต้นก็เริ่มเห็นมากขึ้นหรือว่าภาพแบบสองมิติจะไม่สามาารถตอบสนองความต้องการของมนุษย์เราได้ครบไม่งั้นก็เพียงแค่ความอยากจะพัฒนาเทคโนโลยีให้มากขึ้น ทำให้มีความเสมือนจริงมากขึ้นซึ่งถ้ามีโลกเสมือนจริงแล้ว คนอาจจะใช้ชีวิตในโลกความเป็นจริงน้อยลงอย่างการช้อปปิ้งผ่านเวบไซต์ก็เช่นเดียวกัน ทำให้คนไม่ออกไปซื้อของในโลกจริงที่มีการเดินไปดูของจริงแต่ดูเพียงรูปในเวบไซต์ เทคโนโลยีสามมิติก็อาจจะช่วยในเรื่องนี้ได้ ถ้าไม่ได้ออกไปดูของจริง แต่สามารถดูรูปแบบสามมิติได้ในคอม หรือในทีวี ก็อาจจะตอบสนองเรื่องการตรวจสอบสินค้าก่อนซื้อได้หรืออนาคตอาจจะพัฒนาให้สามารถทดลองจับของจริงจากคอมก็ได้โดยที่คนทั่วไปสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีเหล่านี้

ถ้าเทคโนโลยีสามมิติเข้ามาในชีวิตเรามากขึ้นกว่านี้ อุปกรณ์ทุกอย่างจะสามารถแสดงผลแบบสามมิติได้
และสามารถนำภาพสามมิติมาแสดงได้ในทุกที่ รวมถึงการนำภาพสามมิติจากกล้องมาตั้งแทนรูปแบบสองมิติที่นำมาใส่กรอบ เทคโนโลยี วีดีโอคอล ก็อาจกลายเป็นการส่งภาพสามมิติหากันแบบเรียลไทม์

แต่ข้อจำกัดของเทคโนโลยีสามมิติตอนนี้คือ ทำให้สายตาใช้งานหนักมากขึ้น
แม้เพียงเทคโนโลยีแบบสองมิติในปัจจุบันก็ทำให้คนสายตาสั้น สายตาเอียงกันมากอยู่แล้ว
ถ้าสามมิติเข้ามา ก็อาจทำให้คนมีปัญหาสายตามากขึ้น
หรือจริงๆ เทคโนโลยีอาจมีการพัฒนาจนกระทั่งเราสามารถมองเห็นมันได้เหมือนภาพของจริง ที่เราไม่ต้องทำลายสายตาก็เป็นได้
เมื่อถึงจุดอิ่มตัวของเทคโนโลยีสองมิติ คนก็เริ่มแสวงหาเทคโนโลยีที่สูงขั้นกว่านั้นคือเปลี่ยนเป็นสามมิติ
ต่อไปจากสามมิติ ก็อาจเป็นการพัฒนาให้สามารถแสดงสิ่งมีมิติที่สามารถจับต้องได้จริงตามการตั้งโปรแกรมก็ได้
หรือเมื่อถึงจุดหนึ่ง เทคโนโลยีอาจถดถอยกลับไปสู่จุดเริ่มต้นของมันก็ได้
เมื่อถึงยุคที่เฟื่องฟูมากๆ ก็อาจจะนำไปสู่จุดสิ้นสุด เหมือนอารยธรรมต่างๆ

ถ้าทรัพยากรที่มีอยู่ไม่สามารถตอบสนองการพัฒนาสิ่งของต่างๆมาสำหรับเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าอย่างรวดเร็วได้ ผู้ผลิตไม่สามารถแบกรับต้นทุนที่สูงขึ้นแต่ราคาขายถูกลงเรื่อยๆได้ ก็อาจถึงทางตันได้ในที่สุด

ไม่มีความคิดเห็น :

แสดงความคิดเห็น