ชื่อบล็อก ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเนื้อหาหรอก แต่แค่ชอบและมุ่งไปหาสิ่งที่ชอบเหมือนเวลามุ่งไปหารักตามชื่อหนังญี่ปุ่นนั่นแหละ
วันพุธที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2557
สรุปความรู้ที่ได้จากสัมมนา DW ของโบรกเกอร์ต่างๆ(1)
จากที่ไม่รู้เรื่อง DW เลย และไม่ได้ลองเริ่มศึกษาอะไร แต่ไปลงสัมมนาที่ทางโบรกเกอร์ต่างๆมาจัดอบรมที่ตลาดหลักทรัพย์แล้วก็ได้เริ่มรู้มาทีละเล็กทีละน้อย
แต่ละโบรกเกอร์ก็จะมีประสบการณ์และข้อมูลที่เตรียมมา รวมทั้งความพร้อมเรื่องผลิตภัณฑ์ต่างกัน
ฟังแล้วก็ได้ความรู้และได้ฟังคำถามที่นักลงทุนคนอื่นๆอยากรู้ บางอย่างก็ทำให้ได้รู้ในสิ่งที่อยากรู้เหมือนกัน บางทีเวลาหาความรู้เองก็อาจจะต้องอ่านเยอะ อ่านหลายๆทาง การนั่งฟังหลายๆเจ้าก็ได้มุมของหลายๆที่เหมือนกัน
อย่างตั้งแต่เรื่องพื้นฐาน
ลองรวบรวมเรื่องเท่าที่รู้มาดู
DW หรือที่เรียกว่า Derivative Warrant ถ้าจะแปลตรงๆก็จะเป็น ใบสำคัญแสดงสิทธิ์อนุพันธ์
พอพูดถึงอนุพันธ์ มันจะทำให้เรานึกถึงพวก tfex พวก gold future stock future oil future set 50 index future
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่ต้องวางเงินแต่ละสัญญาเป็นจำนวนเยอะ และมีการ call margin หรือให้เราเติมเงินเข้าไปถ้าขาดทุนเยอะ และก็จะขาดทุนง่ายมากถ้าเปิดสถานะสัญญาผิดทิศทาง สวนทางกับตลาด
แต่ DW นี่ไม่ใช่ แนวที่ต้องวางเงินเยอะและมีการเก็บเงินเพิ่มแบบนั้น
ลองคิดถึง warrant ที่ปกติเวลาซื้อหุ้น บางตัวจะมีแจก วอร์แรนต์ ที่ให้สิทธิเราซื้อหุ้นในราคาที่เขากำหนด
ซึ่งจะออกล่วงหน้ากันบางทีกว่าจะใช้สิทธิซื้อได้ก็อีกหลายปี ราคาที่เขากำหนดก็อาจจะถูกกว่าที่เราไปซื้อหุ้นตัวนั้นในตลาด ซึ่งถ้าถูกกว่าเราก็อยากจะใช้สิทธิ์ซื้อหุ้นนั้น
และ warrant ของหุ้นก็จะมีการซื้อขายในตลาด ราคาไม่กี่สตางค์
ส่วนของ derivative warrant ก็จะมีการกำหนดสิทธิให้ซื้อหรือขายหุ้นได้ในราคาที่กำหนด ซึ่งจะสามารถใช้สิทธิ์ได้เมื่อครบกำหนดอายุ
ก็เหมือนเราคาดเดาว่าราคาจะเป็นไปในทิศทางไหนและคิดว่าราคาที่จะใช้สิทธิ์นั้นเหมาะสมหรือไม่
และจ่ายเงินซื้อ DW ในตลาดเป็นราคาที่จะทำให้เราได้สิทธิ์นั้น ซึ่งก็เหมือนจ่ายแค่ราคา warrant ไม่กี่สตางค์
ถ้าเห็นว่าราคาเหมาะสม ก็เข้าซื้อ
ซึ่งจะมี 2 อย่าง คือกะว่าเป็น ขาขึ้น ก็ซื้อ call กับขาลง ก็ซื้อ put
แต่ถ้าเป็น future จะเรียก long กับ short
ถ้าเป็นกรณี ขาขึ้นที่เห็นว่าราคาหุ้นน่าจะขึ้นมากกว่าราคาที่กำหนดใช้สิทธิ์ call และราคาของ warrant เหมาะสมก็ซื้อ call ซึ่งถ้าราคาหุ้นมากกว่าราคาใช้สิทธิ์ DW ก็จะทำให้ DW นั้นอยู่ในสถานะ In-the-money และถ้าเท่ากัน ก็คือ At- the-money ถ้าราคาลงมาต่ำกว่าราคาใช้สิทธิ์ ก็จะถือเป็น Out-of-the-money
สถานะพวกนี้ก็จะมีผลต่อการกำหนดราคา DW
กรณี ขาลง เห็นว่าราคาน่าจะลงมากกว่าราคาที่กำหนดใช้สิทธิ์ Put ก็ซื้อ put ซึ่งกรณีของ put ถ้าซื้อ put ก็จะเหมือนกับการ short หุ้น คือ ขายออกมาก่อน แล้วเข้าซื้อในราคาต่ำกว่า
ดูๆแล้ว ถ้าจะเล่น DW ก็ต้องมีความรู้แบบเรื่องการคาดเดาทิศทางของราคาหุ้น
เพราะราคาของ DW จะขึ้นลงตามราคาหุ้นตัวแม่ที่อ้างอิง
ถ้าเดาผิดทางก็มีสิทธิ์ขาดทุนเยอะ
ราคาหุ้นแม่ขึ้น DW call ของตัวนั้นก็ราคาขึ้น ตามราคาเหมาะสม ซึ่งมีตัวคูณกำหนดไว้ เช่น อัตราทด (ซื้อ DW1 หุ้น จะกำไรขาดทุนเท่ากับซื้อหุ้นแม่กี่หุ้น) อายุคงเหลือนับย้อนจากวันใช้สิทธิ์ เป็นต้น
ซึ่งปัจจัยที่เขาใช้มาคำนวณราคาก็ทำให้กำไรได้มาก และก็ขาดทุนได้มากเช่นกัน
สำหรับที่ไปฟังแต่ละที่มาส่วนที่ออกมาให้เลือกเยอะและมีคนเล่นก็จะเป็นของบัวหลวง DW01
มีออกทั้ง call,put
พวกที่ชื่อประมาณ
"ชื่อหุ้น4ตัว+01(หมายเลขผู้ออก)+ปี14(2014) หรือ ปี 15 + c(call) หรือ p(put)+เดือน+ตัวอักษร เช่นa,b,c "
เช่น aaa01c1412a , aaa01p1412a
ส่วนที่อื่นอาจจะยังออกมาไม่เยอะ และจะมีแต่ call ยังไม่ค่อยมี put
DW11 ของกสิกร ส่วนDW07 ของ CIMB
คิดว่า DW นี่ถ้าไม่มีสภาพคล่องก็อาจจะเทรดทำกำไรยากเหมือนกัน
บทความถัดไป
สรุปความรู้ที่ได้จากสัมมนา DW ของโบรกเกอร์ต่างๆ(2)
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น
(
Atom
)
ไม่มีความคิดเห็น :
แสดงความคิดเห็น