ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น NPARK 29 ธ.ค. 57

ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น N-PARK (ที่เพิ่งเปลี่ยนชื่อย่อเป็นNPARK)ครั้งสุดท้ายของปี 2557
ประเด็นสำคัญที่คุยกันก็จะเป็นเรื่องที่เขารวมกับบีทีเอสเอ (บีทีเอสแสเสทส์ จำกัด) และก้ามกุ้ง พรอพเพอร์ตี้ (ก็จากบีทีเอสกรุ๊ป) นี่แหละ
มีการนำคนของบีทีเอสกรุ๊ปมาเป็นกรรมการด้วย พร้อมทั้งจะเปลี่ยนชื่อจาก NPARK ( NATURAL PARK) ไปเป็น U (U CITY) (บริษัท ยู ซิตี้ จำกัด (มหาชน))
ถือเป็นการเปลี่ยนชื่อที่ทำให้ความรู้สึกถึงคอนเซปเปลี่ยนไปอย่างชัดเจน คือคงจะไม่อนุรักษ์ ไม่ธรรมชาติใดๆ แต่จะเป็นโคตรเมือง? รึเปล่า
(แล้วที่ดินตรงบางกระเจ้าที่บอกว่ามีอยู่เยอะแล้วเห็นมีแผนว่าจะซื้อเพิ่มนั่นอะไร   จะทำเป็นโครงการโคตรเมืองด้วยรึเปล่า  )
ยิ่งมีคนไปปั่นจักรยานตรงนั้นบ่อยๆด้วย  เคยไปปั่นแล้วก็ยังรู้สึกว่าธรรมชาติเยอะ เป็นบ้านคนทั่วไปด้วย
(ว่าแต่แอบเห็นข่าว นายกตู่ชอบปั่นจักรยาน อาจจะทำให้ที่ตรงบางกระเจ้ามีสิทธิ์รอดแฮะ)
มีการให้หุ้นเป็นแบบหุ้นเพิ่มทุน และให้เป็นแบบวอร์แรนท์เพื่อให้นำไปแปลงสิทธิ แล้วจะได้รับเงินสดกลับเข้ามา
ได้รับที่ดินของบีทีเอสเอ  ที่มีตรงแถวพญาไท และตรงจตุจักร
โรงแรมที่ไปประชุมตรงสถานีสุรศักดิ์ก็ด้วย (อีสติน แกรนด์ สาทร)
ในวันประชุม เอารถไปแต่เช้า กลัวว่าจะไม่มีที่จอด  ชั้นแรกๆเขาก็มีกั้นๆไว้ไม่ให้จอดเหมือนที่จอดรถประจำทั่วไป ขึ้นไปประมาณชั้นสี่A ถึงมีที่จอด  อีกชั้นนึง ชั้น 5 ก็กั้นไว้เป็นของกรรมการที่ไปประชุม  กำหนดการประชุมเริ่มสิบโมงเช้า แต่เขาก็เริ่มเลทๆ สิบโมงยี่สิบเห็นจะได้ (ดูเวลาของตัวเองแล้วที่เริ่มจริงแบบเริ่มพูดก็สิบโมงยี่สิบ แต่ก็มีคนขึ้นมาพูดว่าเขาเริ่มสาย เริ่มสิบโมงสิบห้า) คือก็ดูแล้วว่าวาระเยอะมาก และกำหนดการเริ่มสิบโมงก็สายแล้วเลยคิดว่าคงไม่จบตอนเที่ยงแน่ ยังไงก็ต้องมีคนถามอยู่แล้ว จริงๆน่าจะเผื่อเวลาแบบเริ่มแปดโมง สุดท้ายคือประชุมเสร็จประมาณบ่ายโมงกว่า คนส่วนใหญ่ออกจากห้องประชุมกันหมดตอนวาระท้ายๆ เลยคิดว่า เป็นกลยุทธ์อย่างนึงรึเปล่า ไม่รู้สิ
ตอนใกล้จบประชุมก็มีคนบ่นขึ้นมา(ออกไมค์)นะว่าน่าจะเลี้ยงข้าว ส.ว. บ้าง (พูดถึงแต่ส.ว. อย่างนี้อย่างเราก็ไม่ได้สิ)
ตอนออกมาเขาก็ดูเหมือนจะเตรียมข้าวกล่องไว้ที่โต๊ะรับของว่าง แต่เขาไม่ได้ประกาศบอกว่าให้ใครเลยไม่ได้ไปหยิบเหมือนกัน เดินออกไปลองหาที่กินข้างนอกเอา
ตอนแรกผู้ถือหุ้นเข้าประชุมด้วยตนเอง 393 ราย  มอบอำนาจ 328 ราย  รวมหุ้น ประมาณแสนสี่หมื่นสองพันล้านหุ้น คิดเป็น 39.47% (39เปอร์เซนต์ก็เป็นแสนล้านหุ้นแล้วตอนนี้แต่ก็ยังจะเพิ่มทุนกันต่อไป)
จากหุ้นสามัญที่ชำระแล้ว สามแสนหกหมื่นหนึ่งพันล้านหุ้น ยังไม่ชำระ ห้าแสนหนึ่งหมื่นล้านหุ้น   (ใกล้หลักล้านล้านแล้ว)  ในงานมีการแซวกันว่าจะเป็นบริษัทที่มีทุนจดทะเบียนสูงสุดในประเทศไทยแล้ว
ไปเปิดดูเห็นเพจในเฟซบุคมีคนแชร์นั่นนี่หลายอย่าง มีวีดีโอการประชุมอยู่ในยูทูปด้วย
(เขียนล่าสุด 5 ม.ค. 2558)