เนื่องจากเครื่องคอมมีปัญหาเลยต้องให้ญาติเอาไปซ่อมให้ เขาเลยลงพวกวินโดวส์อะไรใหม่มาให้
ปรากฏว่าเขาลงพวก microsoft word, excel รุ่นใหม่ 2007 ที่ไม่เคยใช้ พอจำเป็นต้องใช้เลยปวดหัวกับมันพอสมควร
แถบเครื่องมือแก้ไขรูปภาพไปไหน
เวลาแทรกรูปภาพเข้าไปแล้วคลิกที่รูปนั้นมันควรจะขึ้นแถบเครื่องมือมาให้อย่างโดดเด่น แต่ Excel 2007 นี่มันซ่อนแถบเครื่องมือไว้เหมือนกลัวเราจะเห็น
ซ่อนเข้าไปใน Ribbon พอเราคลิกที่รูปมันจะโชว์ picture tools - format โดยซ่อนไว้ที่ ribbon แถบเครื่องมือใหญ่ๆด้านบนของมัน โดยเพิ่มไว้อยู่ทางขวาสุด
แถบเครื่องมือวาดรูปไปไหน
จะวาดรูปวาดเส้นอะไร เมื่อก่อนคลิ๊กเพิ่มแถบเครื่องมือก็มีเครื่องมือขึ้นมาครบกดได้ตลอด
แต่คราวนี้เวอร์ชั่นใหม่ ต้อง insert - shape ก่อน แล้วไปคลิ๊กรูปร่างที่เราวาดไว้ถึงจะขึ้นแถบเครื่องมือแก้ไขรูปวาด ทางขวาสุดของ ribbon บางทีคลิ๊กที่รูปวาดเรามันก็โชว์ drawing tool ให้เลย แต่บางครั้งก็ไม่ขึ้น ซ่อนไว้ในribbon
หา print preview ไม่เจอ
print preview มันหาสะดวกมากในเวอร์ชั่นเก่า อยู่ในแถบเครื่องมือด้านบนเลย แต่ไอ้เวอร์ชั่นใหม่นี่มัน
ชื่อบล็อก ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเนื้อหาหรอก แต่แค่ชอบและมุ่งไปหาสิ่งที่ชอบเหมือนเวลามุ่งไปหารักตามชื่อหนังญี่ปุ่นนั่นแหละ
วันพุธที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2557
วันจันทร์ที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2557
คำว่า お疲れ様 ไม่รู้จะแปลเป็นไทยยังไง
お疲れ様(おつかれさま) เป็นคำที่เจอบ่อยเวลาทำงานในวงการที่เกี่ยวข้องกับญี่ปุ่น
ใช้ทักทายโดยทั่วไปเวลาเจอกัน เวลาเลิกงาน เวลาที่ทำงานสำเร็จ โดยทั่วไปคำนี้เวลาพูด จะเป็นการที่ผู้พูดแสดงความขอบคุณ ที่บุคคลเหน็ดเหนื่อยทุ่มเทให้กับการทำงาน
ใช้เป็นคำกล่าวทักทายในอีเมลบ่อยๆ แบบพิมพ์มาเป็นบรรทัดแรกก่อนเริ่มเรื่อง
แต่ในบริบทภาษาไทยจะไม่มีการกล่าวทักทายลักษณะแบบนี้ ถ้าแปลไปตรงตัวจะแปลกมาก
ทีนี้เวลาเรียนก็สอนความหมายสอนว่าเวลาญี่ปุ่นใช้ ใช้ในกรณีไหน แต่ไม่ได้สอนว่าควรใช้คำไทยอย่างไรเวลาเจอคำนี้ในบริบทต่างๆตอนกำลังแปลภาษา
พอเจอเข้าจริงๆก็ต้องอึ้งว่าจะพูดออกไปอย่างไร จะแปลอย่างไร
แค่คำนี้คำเดียวก็ทำให้งานติดขัดและล่มได้
ใช้ทักทายโดยทั่วไปเวลาเจอกัน เวลาเลิกงาน เวลาที่ทำงานสำเร็จ โดยทั่วไปคำนี้เวลาพูด จะเป็นการที่ผู้พูดแสดงความขอบคุณ ที่บุคคลเหน็ดเหนื่อยทุ่มเทให้กับการทำงาน
ใช้เป็นคำกล่าวทักทายในอีเมลบ่อยๆ แบบพิมพ์มาเป็นบรรทัดแรกก่อนเริ่มเรื่อง
แต่ในบริบทภาษาไทยจะไม่มีการกล่าวทักทายลักษณะแบบนี้ ถ้าแปลไปตรงตัวจะแปลกมาก
ทีนี้เวลาเรียนก็สอนความหมายสอนว่าเวลาญี่ปุ่นใช้ ใช้ในกรณีไหน แต่ไม่ได้สอนว่าควรใช้คำไทยอย่างไรเวลาเจอคำนี้ในบริบทต่างๆตอนกำลังแปลภาษา
พอเจอเข้าจริงๆก็ต้องอึ้งว่าจะพูดออกไปอย่างไร จะแปลอย่างไร
แค่คำนี้คำเดียวก็ทำให้งานติดขัดและล่มได้
การเกณฑ์ทหารในภาษาญี่ปุ่น
วันนี้เจอศัพท์นักเรียนรด. นักศึกษาวิชาทหารไม่รู้จะแปลอย่างไร
ลองเสิร์ซดูก็มีพวกเวบบอร์ดที่เขาถามกัน เห็นมีคนใช้คำว่า 予備軍の訓練を受ける
ลองเสิร์ซดูก็มีพวกเวบบอร์ดที่เขาถามกัน เห็นมีคนใช้คำว่า 予備軍の訓練を受ける
ในภาษาอังกฤษก็เจอว่า Reserve Officer Training Cops Student
วันเสาร์ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2557
ตัวแทนขอวีซ่าออสเตรเลีย ที่เดียวกับขอวีซ่าอังกฤษ
Update :11/04/2016
ตอนนี้หน่วยงานที่ต้องไปติดต่อขอวีซ่าออสเตรเลียก็เป็นหน่วยงานเดียวกับการขอวีซ่าอังกฤษ
เป็น vfs ตามเวบนี้ http://www.vfs-au.net/
ตอนนี้ขอวีซ่าออสเตรเลียจากที่ไม่ต้องนัดเวลาก่อนไปยื่นขอวีซ่าก็ต้องนัดเวลาก่อนทางเมล
ไปแบบไม่นัดก่อนก็ไม่รับคำขอถ้าเป็นตัวแทน
ขึ้นไปที่ตึกเดียวกัน ชั้นเดียวกัน ซึ่งมีเคาน์เตอร์ต้อนรับเดียวกัน แต่แยกฝั่งซ้ายอังกฤษ ขวาออสเตรเลีย
ตอนไปทุกครั้งก็เห็นคนไปยืนรอคิวขอวีซ่าอังกฤษกันเป็นแถว ฟังเวลานัด ก็รู้ว่านัดคิวแยกทุกๆสิบนาที
ผิดกับของออสเตรเลียที่ไม่ต้องรอคิวนาน (update ของอังกฤษไปก่อนเวลานัดได้สิบนาที )
ตึกที่ขอวีซ่าอยู่สุขุมวิทซอย 13 ชื่อตึกเดอะเทรนดี้ ออฟฟิศ ถ้ามาจากอโศกต้องกลับรถตรงซอย11แล้วเตรียมเลี้ยวซ้ายเลย ที่หน้าซอยป้ายจะมีอะไรบังมองตัวเลขยากแต่จะเห็นป้ายของสถานกงศุลซีเรีย และตอนนี้หน้าซอยกำลังก่อสร้างพอดี(ผ่านไปเมื่อ 30มี.ค.2558 update 11 เม.ย.2559 ก็ยังก่อสร้างอยู่)
ที่ตึกที่ไปขอวีซ่าออสเตรเลียกับอังกฤษนี่เป็นตึกที่ทุกคนคงจะแย่งชิงที่จอดรถกันมาก ดูจากอุปกรณ์กั้นต่างๆและป้ายติดเตือน ป้ายติดปรับจอดผิดที่คิด 1000 บาท (โหดมาก)
โดยเฉพาะคนไปจอดชั่วคราวไม่รู้ว่าเขาจะมาตรวจและปรับทันมั้ย แต่เราก็เลือกจอดตามที่ๆเขาบอกไว้ดีกว่า อย่างชั้นห้านี่จอดได้ทั้งชั้นแต่ก็เต็มแบบซ้อนคันกัน (update เห็นมีให้ไปจอดชั้นอื่นอย่างชั้นสามด้วย ตอนนี้มีพวกนอร์เวย์ สวีเดน ไอซ์แลนด์มาทำที่เดียวยิ่งแน่นมั้ง แต่ชั้นห้าสะดวกสุดแล้วเดินเข้าตึกได้เลย)
การที่สองสถานทูตเลือกใช้ตัวแทนแบบ outsource แบบนี้ไม่รู้ว่าเขาร่วมมือกันหรือยังไงแน่แต่คิดว่าเขาควรคิดถึงพื้นที่รอคิวของคนมาขอวีซ่าบ้าง บริษัท outsource อาจเป็นทางเลือกที่ดีของสถานทูต แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าถ้าคนมันเยอะแบบห้าสิบคนถึงร้อยคนต่อทุกๆสิบยี่สิบนาทีจะเป็นยังไง ยืนกันหน้าลิฟท์ หน้าห้องน้ำ แทบไม่มีที่จะยืนกันเลยทีเดียว แถมรอลิฟท์ก็นาน ตึกมีหลายชั้น มีลิฟท์ขึ้นไปตรงขอวีซ่า 3 ตัว ตอนขาลง ลิฟท์มาแทบจะต้องวิ่งแย่งชิงกัน
(Update มีกำหนดลิฟท์เฉพาะของวีเอฟเอสแล้วอยู่ที่ลิฟท์high zone อยู่ด้านหลังร้านกาแฟTom N Tom ไปได้ทั้งชั้น 8 28โดยลิฟท์หนึ่งตัว ยังดีกว่าไปเบียดกับพนักงานชั้นอื่นหน่อยนึง)
จริงๆเขาก็บริการเร็ว มีการตรวจเช็คนิดหน่อยก่อนเข้าไป คือไม่เยอะเท่าของเยอรมันที่เคยไปมา
พื้นที่ด้านในหลังจากเข้าไปแล้วก็มีพื้นที่เยอะอยู่ มีเคาน์เตอร์บริการเยอะ
(Update ห้ามเอาขวดน้ำเข้าแล้ว)
เรื่องระยะเวลาวีซ่า ก็รู้สึกว่ามันนานมากขึ้นกว่าแต่ก่อน และมีรูปแบบวีซ่าแปลกๆ ไม่แปะลงพาสปอร์ต แต่แจ้งมาเป็นเมล เป็นแผ่นกระดาษ แถมถ้าจะแปะบนพาสปอร์ตต้องเสียตังค์เพิ่ม
(คือค่าบริการของvfs นี่ก็มีต่างหากจากค่าวีซ่าด้วย ซึ่งวีซ่าอย่างเดียวก็แพงอยู่แล้ว แถมมีค่าบริการเอสเอ็มเอส ,โทรแจ้งต่างหาก)
รายละเอียดสถานที่ขอวีซ่า
http://vfs-au.net/Thai/contactus.html
เพิ่มเติม
คนที่เค้าน์เตอร์อาจจะบวกเงินเพิ่มเป็นค่าโทรแจ้งผลวีซ่า /sms
บางเค้าน์เตอร์ก็บวกไปเลยโดยไม่ถาม และเค้าจะไม่บอกว่าบริการนี้คิดค่าบริการ
ปกติจะเช็คผลเองไม่คิดเพิ่มแต่ถ้าให้เค้าโทรแจ้งจะมีค่าบริการเพิ่ม
รู้สึกว่าบริการวีเอฟเอสที่มาแบบมวลชนนี่กินรวบให้บริการหลายสถานทูตและคิดค่าบริการเสริมแบบไม่เป็นธรรม แต่ผู้บริโภคก็ไม่มีทางเลือก
ตอนนี้หน่วยงานที่ต้องไปติดต่อขอวีซ่าออสเตรเลียก็เป็นหน่วยงานเดียวกับการขอวีซ่าอังกฤษ
เป็น vfs ตามเวบนี้ http://www.vfs-au.net/
ตอนนี้ขอวีซ่าออสเตรเลียจากที่ไม่ต้องนัดเวลาก่อนไปยื่นขอวีซ่าก็ต้องนัดเวลาก่อนทางเมล
ไปแบบไม่นัดก่อนก็ไม่รับคำขอถ้าเป็นตัวแทน
ขึ้นไปที่ตึกเดียวกัน ชั้นเดียวกัน ซึ่งมีเคาน์เตอร์ต้อนรับเดียวกัน แต่แยกฝั่งซ้ายอังกฤษ ขวาออสเตรเลีย
ตอนไปทุกครั้งก็เห็นคนไปยืนรอคิวขอวีซ่าอังกฤษกันเป็นแถว ฟังเวลานัด ก็รู้ว่านัดคิวแยกทุกๆสิบนาที
ผิดกับของออสเตรเลียที่ไม่ต้องรอคิวนาน (update ของอังกฤษไปก่อนเวลานัดได้สิบนาที )
ตึกที่ขอวีซ่าอยู่สุขุมวิทซอย 13 ชื่อตึกเดอะเทรนดี้ ออฟฟิศ ถ้ามาจากอโศกต้องกลับรถตรงซอย11แล้วเตรียมเลี้ยวซ้ายเลย ที่หน้าซอยป้ายจะมีอะไรบังมองตัวเลขยากแต่จะเห็นป้ายของสถานกงศุลซีเรีย และตอนนี้หน้าซอยกำลังก่อสร้างพอดี(ผ่านไปเมื่อ 30มี.ค.2558 update 11 เม.ย.2559 ก็ยังก่อสร้างอยู่)
ที่ตึกที่ไปขอวีซ่าออสเตรเลียกับอังกฤษนี่เป็นตึกที่ทุกคนคงจะแย่งชิงที่จอดรถกันมาก ดูจากอุปกรณ์กั้นต่างๆและป้ายติดเตือน ป้ายติดปรับจอดผิดที่คิด 1000 บาท (โหดมาก)
โดยเฉพาะคนไปจอดชั่วคราวไม่รู้ว่าเขาจะมาตรวจและปรับทันมั้ย แต่เราก็เลือกจอดตามที่ๆเขาบอกไว้ดีกว่า อย่างชั้นห้านี่จอดได้ทั้งชั้นแต่ก็เต็มแบบซ้อนคันกัน (update เห็นมีให้ไปจอดชั้นอื่นอย่างชั้นสามด้วย ตอนนี้มีพวกนอร์เวย์ สวีเดน ไอซ์แลนด์มาทำที่เดียวยิ่งแน่นมั้ง แต่ชั้นห้าสะดวกสุดแล้วเดินเข้าตึกได้เลย)
การที่สองสถานทูตเลือกใช้ตัวแทนแบบ outsource แบบนี้ไม่รู้ว่าเขาร่วมมือกันหรือยังไงแน่แต่คิดว่าเขาควรคิดถึงพื้นที่รอคิวของคนมาขอวีซ่าบ้าง บริษัท outsource อาจเป็นทางเลือกที่ดีของสถานทูต แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าถ้าคนมันเยอะแบบห้าสิบคนถึงร้อยคนต่อทุกๆสิบยี่สิบนาทีจะเป็นยังไง ยืนกันหน้าลิฟท์ หน้าห้องน้ำ แทบไม่มีที่จะยืนกันเลยทีเดียว แถมรอลิฟท์ก็นาน ตึกมีหลายชั้น มีลิฟท์ขึ้นไปตรงขอวีซ่า 3 ตัว ตอนขาลง ลิฟท์มาแทบจะต้องวิ่งแย่งชิงกัน
(Update มีกำหนดลิฟท์เฉพาะของวีเอฟเอสแล้วอยู่ที่ลิฟท์high zone อยู่ด้านหลังร้านกาแฟTom N Tom ไปได้ทั้งชั้น 8 28โดยลิฟท์หนึ่งตัว ยังดีกว่าไปเบียดกับพนักงานชั้นอื่นหน่อยนึง)
จริงๆเขาก็บริการเร็ว มีการตรวจเช็คนิดหน่อยก่อนเข้าไป คือไม่เยอะเท่าของเยอรมันที่เคยไปมา
พื้นที่ด้านในหลังจากเข้าไปแล้วก็มีพื้นที่เยอะอยู่ มีเคาน์เตอร์บริการเยอะ
(Update ห้ามเอาขวดน้ำเข้าแล้ว)
เรื่องระยะเวลาวีซ่า ก็รู้สึกว่ามันนานมากขึ้นกว่าแต่ก่อน และมีรูปแบบวีซ่าแปลกๆ ไม่แปะลงพาสปอร์ต แต่แจ้งมาเป็นเมล เป็นแผ่นกระดาษ แถมถ้าจะแปะบนพาสปอร์ตต้องเสียตังค์เพิ่ม
(คือค่าบริการของvfs นี่ก็มีต่างหากจากค่าวีซ่าด้วย ซึ่งวีซ่าอย่างเดียวก็แพงอยู่แล้ว แถมมีค่าบริการเอสเอ็มเอส ,โทรแจ้งต่างหาก)
รายละเอียดสถานที่ขอวีซ่า
http://vfs-au.net/Thai/contactus.html
เพิ่มเติม
คนที่เค้าน์เตอร์อาจจะบวกเงินเพิ่มเป็นค่าโทรแจ้งผลวีซ่า /sms
บางเค้าน์เตอร์ก็บวกไปเลยโดยไม่ถาม และเค้าจะไม่บอกว่าบริการนี้คิดค่าบริการ
ปกติจะเช็คผลเองไม่คิดเพิ่มแต่ถ้าให้เค้าโทรแจ้งจะมีค่าบริการเพิ่ม
รู้สึกว่าบริการวีเอฟเอสที่มาแบบมวลชนนี่กินรวบให้บริการหลายสถานทูตและคิดค่าบริการเสริมแบบไม่เป็นธรรม แต่ผู้บริโภคก็ไม่มีทางเลือก
วันพฤหัสบดีที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2557
อยู่ดีๆก็มี Asp.net account ในเครื่องคอม
เมื่อวานใช้คอมเล่นนู่นนี่ ช่วงเย็นทิ้งคอมไปกินข้าวในครัวพักนึงกลับมาก็เห็นคอมอยู่หน้าจอ log on เข้าระบบใหม่ทั้งที่ไม่เคย set ตั้งเวลาให้ขึ้นหน้าจอ Log on เวลาไม่ได้ใช้ตั้งไว้แค่ screen saver
วันนี้เปิดคอมมาเห็นหน้าจอ log on ทั้งที่ไม่ได้ตั้งไว้อีกก็เลยสงสัยลองกดดูใน user account ในคอมเรา
ปรากฏว่ามี Asp.net account เพิ่มขึ้นมาทั้งๆที่ไม่ได้ set ไว้ เลยตกใจรีบลบออก นึกว่ามีโปรแกรมอะไรเล่นงานเครื่องซะแล้ว
แต่พอดีลองเสิร์ซดูใน google ก็ปรากฏว่าเวลาติดตั้ง .Net framework จะมี account นี้ set ขึ้นมาอัตโนมัติ ซึ่งจะเป็นใน windows xp แต่อย่าง vista ไม่เป็น แต่ account นี้จะจำเป็นเวลาใช้พัฒนาโปรแกรม
เลยนึกได้ว่าเมื่อวานติดตั้งดิกไทยญี่ปุ่นไป เวลาติดตั้งดิกไทยญี่ปุ่นในเครื่องจะให้ติด .Net framework ก่อน เลยเป็นแบบนี้
วันนี้เปิดคอมมาเห็นหน้าจอ log on ทั้งที่ไม่ได้ตั้งไว้อีกก็เลยสงสัยลองกดดูใน user account ในคอมเรา
ปรากฏว่ามี Asp.net account เพิ่มขึ้นมาทั้งๆที่ไม่ได้ set ไว้ เลยตกใจรีบลบออก นึกว่ามีโปรแกรมอะไรเล่นงานเครื่องซะแล้ว
แต่พอดีลองเสิร์ซดูใน google ก็ปรากฏว่าเวลาติดตั้ง .Net framework จะมี account นี้ set ขึ้นมาอัตโนมัติ ซึ่งจะเป็นใน windows xp แต่อย่าง vista ไม่เป็น แต่ account นี้จะจำเป็นเวลาใช้พัฒนาโปรแกรม
เลยนึกได้ว่าเมื่อวานติดตั้งดิกไทยญี่ปุ่นไป เวลาติดตั้งดิกไทยญี่ปุ่นในเครื่องจะให้ติด .Net framework ก่อน เลยเป็นแบบนี้
วันจันทร์ที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2557
เที่ยวเรเกนสบวร์ก (Regensburg) เนิร์นแบร์ก (Nurnberg)เยอรมัน- ค่าใช้จ่าย
1 เม.ย. 57
ช่วงนี้เที่ยวเมืองเล็ก สงบๆ เดินชมเมืองเลือกวิวถ่ายรูป
นั่งรถไฟจากมิวนิคไปแวะเรเกนสบวร์ก แล้วค่อยวกกลับไปพักที่เนิร์นแบร์ก (Nurnberg)
ค่าตั๋วกลุ่มแคว้นบาวาเรียคนละ 10.33
ที่เที่ยว ชมโบสถ์ st.peter , Alte kapelle ,Alte Rathaus ชมสะพานหินเก่าที่กำลังซ่อม ถ่ายรูปวิวแม่น้ำ
แล้วก็กลับไปเนิร์นแบร์กเที่ยวยามเย็นเดินขึ้นกำแพงเก่ารอบเมืองไปถ่ายรูป
อาหาร
เช้ากินขนมปังจากซุปเปอร์ที่ซื้อเมื่อวาน
กลางวัน Doner Kebab 3.5 Euro
เย็น Mc donald เบอร์เกอร์+น้ำอัดลมแก้วเล็ก เมนูเซ็ต 2 Euro
พักที่ Five reasons hostel @ Nurnburg
ค่าที่พัก 3 คืน คนละ 54 Euro = 54/3 =18 Euro
วันนี้ไม่เสียค่าเข้าชม
รวมค่าใช้จ่าย
10.33+3.5+2+18 = 33.83
33.83 x 45 = 1522.35
รูปประกอบ


ช่วงนี้เที่ยวเมืองเล็ก สงบๆ เดินชมเมืองเลือกวิวถ่ายรูป
นั่งรถไฟจากมิวนิคไปแวะเรเกนสบวร์ก แล้วค่อยวกกลับไปพักที่เนิร์นแบร์ก (Nurnberg)
ค่าตั๋วกลุ่มแคว้นบาวาเรียคนละ 10.33
ที่เที่ยว ชมโบสถ์ st.peter , Alte kapelle ,Alte Rathaus ชมสะพานหินเก่าที่กำลังซ่อม ถ่ายรูปวิวแม่น้ำ
แล้วก็กลับไปเนิร์นแบร์กเที่ยวยามเย็นเดินขึ้นกำแพงเก่ารอบเมืองไปถ่ายรูป
อาหาร
เช้ากินขนมปังจากซุปเปอร์ที่ซื้อเมื่อวาน
กลางวัน Doner Kebab 3.5 Euro
เย็น Mc donald เบอร์เกอร์+น้ำอัดลมแก้วเล็ก เมนูเซ็ต 2 Euro
พักที่ Five reasons hostel @ Nurnburg
ค่าที่พัก 3 คืน คนละ 54 Euro = 54/3 =18 Euro
วันนี้ไม่เสียค่าเข้าชม
รวมค่าใช้จ่าย
10.33+3.5+2+18 = 33.83
33.83 x 45 = 1522.35
รูปประกอบ
ป้ายกำกับ:
ค่าใช้จ่ายการท่องเที่ยว
,
ท่องเที่ยว
,
ยุโรป
,
เยอรมัน
วันพุธที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2557
ประกาศผลสอบมสธ. เทอม 2 ปี 2556 และกำหนดรับสมัครปี2557
ปีนี้พอมีเหตุการณ์อะไรต่างๆก็ทำให้ทั้งวันสอบเลื่อนแล้วประกาศผลสอบก็เลื่อนจากกำหนด
ตอนแรกสอบปลายเมษาก็เลื่อนเป็น 3-4 พ.ค. 57 และไปดูในปฏิทินการศึกษาก็เห็นว่าวันประกาศผลสอบส่วนวิชาที่สอบแบบปรนัย(กากบาท)ล้วน เป็น 6 มิ.ย. 57
พอถึงวัน 6 มิถุนายน เข้าไปดูหน้าที่เช็คผลสอบประจำ กรอกรหัสประจำตัวเข้าไประบบก็บอกว่าไม่พบข้อมูลของเรา
กดเข้าไปดูหน้าปฏิทินการศึกษา เทอม 2 ปี 56 ก็ไม่มีเขียนเรื่องวันประกาศผลสอบ
กดไปดูหน้าของนักศึกษาป.ตรีเมนูที่เป็นประกาศผลสอบ ลิงค์กำหนดวันประกาศผลสอบก็ใช้ไม่ได้กดแล้วไม่มีอะไรขึ้น ขึ้น redirect อยู่นาน
ป้ายกำกับ:
ประกาศผลสอบมสธ.2/2556
,
เรียนมสธ.
,
เรียนม.สุโขทัยธรรมาธิราช
วันจันทร์ที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2557
เที่ยวซาลซ์บวร์ก(Salzburg) ออสเตรีย- ค่าใช้จ่าย
วันที่ 31 มี.ค. 2557
เดินทางจากมิวนิคไปซาลซ์บวร์กของออสเตรียเพราะมีตั๋วแคว้นบาวาเรียที่สามารถไปได้ถึงออสเตรีย
เดินทางสามคนก็คนละ 10.33 Euro
ราคาคนเดียว 23 บวกคนเพิ่มก็เพิ่มคนละ 4 Euro เป็น (23+4+4) / 3 = 10.33
(ไปได้สูงสุด 5 คน)
เมืองนี้มีแผนที่หยิบฟรีที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวตรงสถานีรถไฟ
ที่เที่ยว ไปวังมิราเบลที่เคยเป็นฉาก The Sound of Music เข้าชมฟรี ตรงข้ามก็เป็นโสถ์เข้าชมได้แต่ก็ไม่มีอะไรเด่น
แล้วก็เดินไปตามทางข้ามสะพาน มีแม่กุญแจคล้องเยอะมาก
ไปย่านกลางเมือง ในแผนที่มีชื่อตลาดเก่า แต่ไปดูแล้วก็มีร้านน้อย
แต่แถบกลางเมืองก็มีอนุเสาวรีย์โมสาร์ทให้ถ่ายรูป
ไปเดินตรงถนนคนเดิน Getredegasse จะมีร้านเยอะและก็ตกแต่งสวยเป็นฉากถ่ายรูปได้
จากนั้นก็เดินขึ้นไป แถบป้อมปราการ Hohensalzburg เป็นการขึ้นเนินไปชมวิวมีทางให้เดินไปได้รอบไปดูภูเขาด้านหลังก็สวยดี
ถ้าจะเข้าชมด้านในก็เสียค่าเข้าชม ประมาณ 8 ยูโร
เดินทางจากมิวนิคไปซาลซ์บวร์กของออสเตรียเพราะมีตั๋วแคว้นบาวาเรียที่สามารถไปได้ถึงออสเตรีย
เดินทางสามคนก็คนละ 10.33 Euro
ราคาคนเดียว 23 บวกคนเพิ่มก็เพิ่มคนละ 4 Euro เป็น (23+4+4) / 3 = 10.33
(ไปได้สูงสุด 5 คน)
เมืองนี้มีแผนที่หยิบฟรีที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวตรงสถานีรถไฟ
ที่เที่ยว ไปวังมิราเบลที่เคยเป็นฉาก The Sound of Music เข้าชมฟรี ตรงข้ามก็เป็นโสถ์เข้าชมได้แต่ก็ไม่มีอะไรเด่น
แล้วก็เดินไปตามทางข้ามสะพาน มีแม่กุญแจคล้องเยอะมาก
ไปย่านกลางเมือง ในแผนที่มีชื่อตลาดเก่า แต่ไปดูแล้วก็มีร้านน้อย
แต่แถบกลางเมืองก็มีอนุเสาวรีย์โมสาร์ทให้ถ่ายรูป
ไปเดินตรงถนนคนเดิน Getredegasse จะมีร้านเยอะและก็ตกแต่งสวยเป็นฉากถ่ายรูปได้
จากนั้นก็เดินขึ้นไป แถบป้อมปราการ Hohensalzburg เป็นการขึ้นเนินไปชมวิวมีทางให้เดินไปได้รอบไปดูภูเขาด้านหลังก็สวยดี
ถ้าจะเข้าชมด้านในก็เสียค่าเข้าชม ประมาณ 8 ยูโร
ป้ายกำกับ:
ค่าใช้จ่ายการท่องเที่ยว
,
ท่องเที่ยว
,
ยุโรป
,
ออสเตรีย
เที่ยวมิวนิค (Munich) เยอรมัน - ค่าใช้จ่าย
30 มี.ค. 2557
เที่ยวเมืองมิวนิคเยอรมัน ออกจากที่พักที่ไฮเดลแบร์กตั้งแต่เช้า
วันนี้มีการเปลี่ยนเวลาชดเชยฤดูร้อนหนึ่งชั่วโมงทำให้มีเวลานอนน้อย
ออกไปแต่เช้าจะได้ทันดูหอนาฬิกาที่มิวนิค
วันนี้ซื้อตั๋วแบบจองล่วงหน้าในเวบ Bahn เหมือนเดิม ราคา 3 คน 69 Euro เท่ากับคนละ 23 ยูโร
นั่ง S bahn 2 ต่อ แล้วไปต่อ EC รถต่อแรก S5 เวลา 6:19 จากสถานี Heidelberg Altstadt ใกล้ที่พัก Lotte The Backpackers
ที่พักวันนี้ Euro Youth Hostel เมืองมิวนิคนี่ก็ค่าที่พักถูกดีคนละ 16.25 Euroต่อคืน พัก 2 คืนห้อง Dorm 5 เตียง (ที่พักแต่ละวันราคาไม่เท่ากันเช็คราคาได้ที่หน้าเวบ)
ที่เที่ยว จริงๆหลังจากดูนาฬิกาแล้วก็น่าจะเที่ยวชมตลาดในเมืองมิวนิคที่เป็นที่ท่องเที่ยวยอดนิยม
แต่เสียดายว่าไปถึงวันอาทิตย์มันไม่มีตลาดและโบสถ์ก็มีประกอบพิธีจะไปเที่ยวชมถ่ายรูปมากก็ไม่ได้ได้แต่เข้าไปดู
ก็ได้ไปชมโบสถ์พวก Frauenkirche , Peterskirche และรอบๆ ที่มิวนิคมีนักท่องเที่ยวเยอะเลยมีจัดพวกฟรีทัวร์ แบบพาเดินทัวร์ชมเมืองโดยมีไกด์คอยพูดแนะนำเรื่องต่างๆเป็นภาษาอังกฤษโดยไม่คิดค่าบริการ
ได้ไปแจมกับกลุ่มนี้บ้างบางที่เพราะก็เดินไปชมที่เดียวกัน
มีวัง residenz ให้เที่ยวชมด้วยแต่เสียค่าเข้าชมและไม่ค่อยมีเวลาเลยไม่ได้เข้าไปชม
วันนี้ใช้ตั๋ววันแบบกลุ่มเพื่อจะขึ้นพวกรถไฟรถรางไปภายในเมือง จริงๆไปได้ 5 คนแต่เราไปแค่ 3 คน 11.2/3 = 3.73 Euro
กลางวัน(บ่ายหน่อยๆ)ไปกินที่ร้านหมูทอด จานใหญ่กินอย่างอิ่ม 10.5 Euro น้ำ 2 Euro
เที่ยวเมืองมิวนิคเยอรมัน ออกจากที่พักที่ไฮเดลแบร์กตั้งแต่เช้า
วันนี้มีการเปลี่ยนเวลาชดเชยฤดูร้อนหนึ่งชั่วโมงทำให้มีเวลานอนน้อย
ออกไปแต่เช้าจะได้ทันดูหอนาฬิกาที่มิวนิค
วันนี้ซื้อตั๋วแบบจองล่วงหน้าในเวบ Bahn เหมือนเดิม ราคา 3 คน 69 Euro เท่ากับคนละ 23 ยูโร
นั่ง S bahn 2 ต่อ แล้วไปต่อ EC รถต่อแรก S5 เวลา 6:19 จากสถานี Heidelberg Altstadt ใกล้ที่พัก Lotte The Backpackers
ที่พักวันนี้ Euro Youth Hostel เมืองมิวนิคนี่ก็ค่าที่พักถูกดีคนละ 16.25 Euroต่อคืน พัก 2 คืนห้อง Dorm 5 เตียง (ที่พักแต่ละวันราคาไม่เท่ากันเช็คราคาได้ที่หน้าเวบ)
ที่เที่ยว จริงๆหลังจากดูนาฬิกาแล้วก็น่าจะเที่ยวชมตลาดในเมืองมิวนิคที่เป็นที่ท่องเที่ยวยอดนิยม
แต่เสียดายว่าไปถึงวันอาทิตย์มันไม่มีตลาดและโบสถ์ก็มีประกอบพิธีจะไปเที่ยวชมถ่ายรูปมากก็ไม่ได้ได้แต่เข้าไปดู
ก็ได้ไปชมโบสถ์พวก Frauenkirche , Peterskirche และรอบๆ ที่มิวนิคมีนักท่องเที่ยวเยอะเลยมีจัดพวกฟรีทัวร์ แบบพาเดินทัวร์ชมเมืองโดยมีไกด์คอยพูดแนะนำเรื่องต่างๆเป็นภาษาอังกฤษโดยไม่คิดค่าบริการ
ได้ไปแจมกับกลุ่มนี้บ้างบางที่เพราะก็เดินไปชมที่เดียวกัน
มีวัง residenz ให้เที่ยวชมด้วยแต่เสียค่าเข้าชมและไม่ค่อยมีเวลาเลยไม่ได้เข้าไปชม
วันนี้ใช้ตั๋ววันแบบกลุ่มเพื่อจะขึ้นพวกรถไฟรถรางไปภายในเมือง จริงๆไปได้ 5 คนแต่เราไปแค่ 3 คน 11.2/3 = 3.73 Euro
กลางวัน(บ่ายหน่อยๆ)ไปกินที่ร้านหมูทอด จานใหญ่กินอย่างอิ่ม 10.5 Euro น้ำ 2 Euro
ป้ายกำกับ:
ค่าใช้จ่ายการท่องเที่ยว
,
ท่องเที่ยว
,
ยุโรป
,
เยอรมัน
วันอาทิตย์ที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2557
เที่ยวไฟร์บวร์ก (Freiburg) เยอรมัน-ค่าใช้จ่าย
วันที่สอง 29 มี.ค. 2557 เดินทางไปเที่ยว Freiburg สิ่งที่จำได้และชอบคือตลาดที่ตรงโบสถ์ (Freiburg Munster)มีของเยอะดี ทั้งของกินไส้กรอก ชีส ผลไม้ ดอกไม้ ขนม
จริงๆเมืองนี้จะมีป่า black forest ที่น่าสนใจแต่เราแวะเที่ยววันเดียวเช้าไปเย็นกลับไปเที่ยวไม่ทันเลยไม่ได้ไป
เดินทางจาก Heidelberg ไป Freiburg ด้วยตั๋วที่จองจากเวบ Bahn ไปกลับ (39+39)/3 = 26 Euro
ที่โบสถ์จะมีหอคอยให้ขึ้นไปดูวิวด้านบน (ต้องเดินขึ้นไป) คนละ 2 Euro ตอนที่ไปก็ปล่อยเพื่อนเดินขึ้นไปส่วนเราเดินชมตลาดอยู่ข้างล่าง ชมตลาด ดูโบสถ์แล้วก็ไปขึ้นเขาชมวิว ไปชมพวกศาลาว่าการ (Town hall หรือ Rathaus) แล้วไปกินไส้กรอกแกงกะหรี่แถวมหาวิทยาลัย
เดินไปทางโบสถ์ยิวตรงแม่น้ำใกล้ๆสถานี ชมสะพานที่ตอนเย็นจะมีคนปีนขึ้นไปนั่งบนเหล็กโค้งๆของสะพาน
ค่าใช้จ่าย
ซื้อไส้กรอกกินตอนเช้า 2 Euro
บ่ายกินไส้กรอกแกงกะหรี่ 4.1 Euro (ไม่ได้สั่งน้ำ)
เสียค่าเข้าห้องน้ำในห้างไป 0.5 Euro
ซื้อโยเกิร์ต 0.45 Euro+ นมช็อคโกแลตครึ่งลิตร 0.95 Euro = 1.4 Euro
วันนี้ใช้ไป 26+2+4.1+0.5+0.45+0.95 = 34 Euro + ที่พัก Lotte ที่ Heidelberg 24 Euro = 58 Euro
คูณ 45 เท่ากับ 2610 บาท
ที่พักมีอาหารเช้าแบบซีเรียลพร้อมนมให้กินได้ไม่อั้น ตอนเช้าก่อนออกเดินทางก็มีกินไปก่อน เย็นก็มากินได้อีก
รูปประกอบ
จริงๆเมืองนี้จะมีป่า black forest ที่น่าสนใจแต่เราแวะเที่ยววันเดียวเช้าไปเย็นกลับไปเที่ยวไม่ทันเลยไม่ได้ไป
เดินทางจาก Heidelberg ไป Freiburg ด้วยตั๋วที่จองจากเวบ Bahn ไปกลับ (39+39)/3 = 26 Euro
ที่โบสถ์จะมีหอคอยให้ขึ้นไปดูวิวด้านบน (ต้องเดินขึ้นไป) คนละ 2 Euro ตอนที่ไปก็ปล่อยเพื่อนเดินขึ้นไปส่วนเราเดินชมตลาดอยู่ข้างล่าง ชมตลาด ดูโบสถ์แล้วก็ไปขึ้นเขาชมวิว ไปชมพวกศาลาว่าการ (Town hall หรือ Rathaus) แล้วไปกินไส้กรอกแกงกะหรี่แถวมหาวิทยาลัย
เดินไปทางโบสถ์ยิวตรงแม่น้ำใกล้ๆสถานี ชมสะพานที่ตอนเย็นจะมีคนปีนขึ้นไปนั่งบนเหล็กโค้งๆของสะพาน
ค่าใช้จ่าย
ซื้อไส้กรอกกินตอนเช้า 2 Euro
บ่ายกินไส้กรอกแกงกะหรี่ 4.1 Euro (ไม่ได้สั่งน้ำ)
เสียค่าเข้าห้องน้ำในห้างไป 0.5 Euro
ซื้อโยเกิร์ต 0.45 Euro+ นมช็อคโกแลตครึ่งลิตร 0.95 Euro = 1.4 Euro
วันนี้ใช้ไป 26+2+4.1+0.5+0.45+0.95 = 34 Euro + ที่พัก Lotte ที่ Heidelberg 24 Euro = 58 Euro
คูณ 45 เท่ากับ 2610 บาท
ที่พักมีอาหารเช้าแบบซีเรียลพร้อมนมให้กินได้ไม่อั้น ตอนเช้าก่อนออกเดินทางก็มีกินไปก่อน เย็นก็มากินได้อีก
รูปประกอบ
สะพานที่คนชอบมานั่งบนส่วนโค้งๆของสะพาน
ตลาดรอบโบสถ์
ไส้กรอกร้านใกล้มหาวิทยาลัย
ป้ายกำกับ:
ค่าใช้จ่ายการท่องเที่ยว
,
ท่องเที่ยว
,
ยุโรป
,
เยอรมัน
วันพฤหัสบดีที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2557
เที่ยวไฮเดลแบร์ก (Heidelberg) เยอรมัน- ค่าใช้จ่าย
28 มี.ค. 57
วันแรกที่ไปถึงเยอรมัน
ไปลงที่สนามบินแฟรงก์เฟิร์ต ขึ้นรถไฟต่อไปที่ไฮเดลแบร์กเขตเมืองเก่า
จองตั๋วรถไฟผ่านเวบ
Bahn รถไฟของเยอรมันล่วงหน้าก่อนไป
เวลาจองหลายคนจะได้ราคาถูกลงแต่รถไฟที่วิ่งระหว่างเมืองใหญ่ระยะไกลจะราคาไม่ถูกลง
จองรถไฟ
8.53 จากชานชาลา 5 ICE513+ICE1013 มีสองขบวนคนละปลายทางแต่เราลงกลางทางไปได้ทั้งสองขบวน
ต่อรถที่
Manheim
มีเวลาต่อรถ 15 นาที
พวกเวลาต่อรถนี่ถ้ากระชั้นชิดไปรถไฟที่นั่งเกิดสายไปไม่กี่นาทีก็พลาดรถได้
แต่รถคราวนี้ที่นั่งต่อเป็น
S1 พวกรถไฟS bahn แบบLocalวิ่งในเมืองพลาดหนึ่งขบวนก็ยังใช้ตั๋วเดิมขึ้นอีกขบวนได้
ต่อรถ 9.38 ชานชาลา 9 ไปถึง Heidelberg 10 โมงเช้า ลงสถานี Heidelberg Altstadt ของรถไฟ S bahn
ไปสามคนค่ารถไฟ
= 39/3 =
คนละ 13 ยูโร
ที่เที่ยว
เดินขึ้นเขาชมวิวรอบปราสาท (Schloss) ไปสะพานเก่า Alte Bruke โบสถ์เซนต์ปีเตอร์ คุกนักศึกษา Student karzer (อยู่ในเขตมหาวิทยาลัยเก่า)
(ไม่ได้ขึ้นกระเช้าและไม่ได้เสียค่าเข้าชมในปราสาท)
ป้ายกำกับ:
ค่าใช้จ่ายการท่องเที่ยว
,
ท่องเที่ยว
,
ยุโรป
,
เยอรมัน
สมัครสมาชิก:
บทความ
(
Atom
)