Update :11/04/2016
ตอนนี้หน่วยงานที่ต้องไปติดต่อขอวีซ่าออสเตรเลียก็เป็นหน่วยงานเดียวกับการขอวีซ่าอังกฤษ
เป็น vfs ตามเวบนี้ http://www.vfs-au.net/
ตอนนี้ขอวีซ่าออสเตรเลียจากที่ไม่ต้องนัดเวลาก่อนไปยื่นขอวีซ่าก็ต้องนัดเวลาก่อนทางเมล
ไปแบบไม่นัดก่อนก็ไม่รับคำขอถ้าเป็นตัวแทน
ขึ้นไปที่ตึกเดียวกัน ชั้นเดียวกัน ซึ่งมีเคาน์เตอร์ต้อนรับเดียวกัน แต่แยกฝั่งซ้ายอังกฤษ ขวาออสเตรเลีย
ตอนไปทุกครั้งก็เห็นคนไปยืนรอคิวขอวีซ่าอังกฤษกันเป็นแถว ฟังเวลานัด ก็รู้ว่านัดคิวแยกทุกๆสิบนาที
ผิดกับของออสเตรเลียที่ไม่ต้องรอคิวนาน (update ของอังกฤษไปก่อนเวลานัดได้สิบนาที )
ตึกที่ขอวีซ่าอยู่สุขุมวิทซอย 13 ชื่อตึกเดอะเทรนดี้ ออฟฟิศ ถ้ามาจากอโศกต้องกลับรถตรงซอย11แล้วเตรียมเลี้ยวซ้ายเลย ที่หน้าซอยป้ายจะมีอะไรบังมองตัวเลขยากแต่จะเห็นป้ายของสถานกงศุลซีเรีย และตอนนี้หน้าซอยกำลังก่อสร้างพอดี(ผ่านไปเมื่อ 30มี.ค.2558 update 11 เม.ย.2559 ก็ยังก่อสร้างอยู่)
ที่ตึกที่ไปขอวีซ่าออสเตรเลียกับอังกฤษนี่เป็นตึกที่ทุกคนคงจะแย่งชิงที่จอดรถกันมาก ดูจากอุปกรณ์กั้นต่างๆและป้ายติดเตือน ป้ายติดปรับจอดผิดที่คิด 1000 บาท (โหดมาก)
โดยเฉพาะคนไปจอดชั่วคราวไม่รู้ว่าเขาจะมาตรวจและปรับทันมั้ย แต่เราก็เลือกจอดตามที่ๆเขาบอกไว้ดีกว่า อย่างชั้นห้านี่จอดได้ทั้งชั้นแต่ก็เต็มแบบซ้อนคันกัน (update เห็นมีให้ไปจอดชั้นอื่นอย่างชั้นสามด้วย ตอนนี้มีพวกนอร์เวย์ สวีเดน ไอซ์แลนด์มาทำที่เดียวยิ่งแน่นมั้ง แต่ชั้นห้าสะดวกสุดแล้วเดินเข้าตึกได้เลย)
การที่สองสถานทูตเลือกใช้ตัวแทนแบบ outsource แบบนี้ไม่รู้ว่าเขาร่วมมือกันหรือยังไงแน่แต่คิดว่าเขาควรคิดถึงพื้นที่รอคิวของคนมาขอวีซ่าบ้าง บริษัท outsource อาจเป็นทางเลือกที่ดีของสถานทูต แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าถ้าคนมันเยอะแบบห้าสิบคนถึงร้อยคนต่อทุกๆสิบยี่สิบนาทีจะเป็นยังไง ยืนกันหน้าลิฟท์ หน้าห้องน้ำ แทบไม่มีที่จะยืนกันเลยทีเดียว แถมรอลิฟท์ก็นาน ตึกมีหลายชั้น มีลิฟท์ขึ้นไปตรงขอวีซ่า 3 ตัว ตอนขาลง ลิฟท์มาแทบจะต้องวิ่งแย่งชิงกัน
(Update มีกำหนดลิฟท์เฉพาะของวีเอฟเอสแล้วอยู่ที่ลิฟท์high zone อยู่ด้านหลังร้านกาแฟTom N Tom ไปได้ทั้งชั้น 8 28โดยลิฟท์หนึ่งตัว ยังดีกว่าไปเบียดกับพนักงานชั้นอื่นหน่อยนึง)
จริงๆเขาก็บริการเร็ว มีการตรวจเช็คนิดหน่อยก่อนเข้าไป คือไม่เยอะเท่าของเยอรมันที่เคยไปมา
พื้นที่ด้านในหลังจากเข้าไปแล้วก็มีพื้นที่เยอะอยู่ มีเคาน์เตอร์บริการเยอะ
(Update ห้ามเอาขวดน้ำเข้าแล้ว)
เรื่องระยะเวลาวีซ่า ก็รู้สึกว่ามันนานมากขึ้นกว่าแต่ก่อน และมีรูปแบบวีซ่าแปลกๆ ไม่แปะลงพาสปอร์ต แต่แจ้งมาเป็นเมล เป็นแผ่นกระดาษ แถมถ้าจะแปะบนพาสปอร์ตต้องเสียตังค์เพิ่ม
(คือค่าบริการของvfs นี่ก็มีต่างหากจากค่าวีซ่าด้วย ซึ่งวีซ่าอย่างเดียวก็แพงอยู่แล้ว แถมมีค่าบริการเอสเอ็มเอส ,โทรแจ้งต่างหาก)
รายละเอียดสถานที่ขอวีซ่า
http://vfs-au.net/Thai/contactus.html
เพิ่มเติม
คนที่เค้าน์เตอร์อาจจะบวกเงินเพิ่มเป็นค่าโทรแจ้งผลวีซ่า /sms
บางเค้าน์เตอร์ก็บวกไปเลยโดยไม่ถาม และเค้าจะไม่บอกว่าบริการนี้คิดค่าบริการ
ปกติจะเช็คผลเองไม่คิดเพิ่มแต่ถ้าให้เค้าโทรแจ้งจะมีค่าบริการเพิ่ม
รู้สึกว่าบริการวีเอฟเอสที่มาแบบมวลชนนี่กินรวบให้บริการหลายสถานทูตและคิดค่าบริการเสริมแบบไม่เป็นธรรม แต่ผู้บริโภคก็ไม่มีทางเลือก
ชื่อบล็อก ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเนื้อหาหรอก แต่แค่ชอบและมุ่งไปหาสิ่งที่ชอบเหมือนเวลามุ่งไปหารักตามชื่อหนังญี่ปุ่นนั่นแหละ
วันเสาร์ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2557
ตัวแทนขอวีซ่าออสเตรเลีย ที่เดียวกับขอวีซ่าอังกฤษ
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น
(
Atom
)
ไม่มีความคิดเห็น :
แสดงความคิดเห็น